มะเร็งปอด
(Lung Cancer)

ภัยเงียบสุดอันตราย รู้ให้เร็ว รักษาให้ทัน ทุกระยะดูแลได้

มะเร็งปอด เกิดจากการแบ่งตัวแบบผิดปกติของเซลล์ภายในปอดอย่างไม่สามารถควบคุมได้ เซลล์ที่เสียหายเกิดการกลายพันธุ์ (Mutation) พัฒนาเป็นมวลหรือก้อนเนื้อร้ายที่ไปขัดขวางกระบวนการการทำงานของอวัยวะและระบบต่าง ๆ

มะเร็งปอด (Lung Cancer)

มะเร็งปอด (Lung cancer) เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของคนไทยและผู้คนทั่วโลก มะเร็งปอดได้กลายเป็นภัยเงียบคร่าชีวิตของผู้คนอย่างแท้จริง เนื่องจากมะเร็งปอดสามารถพัฒนาและแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วโดยไม่แสดงอาการใด ๆ จนกระทั่งเซลล์มะเร็งได้ลุกลามเป็นบริเวณกว้าง ผู้ป่วยจึงจะสังเกตอาการได้อย่างชัดเจน แม้ว่าเราทุกคนจะพอทราบถึงสาเหตุ และปัจจัยของโรคมะเร็งปอด แต่มีผู้ป่วยเพียงจำนวนน้อยมาก ที่สามารถตรวจพบมะเร็งปอดได้ในระยะแรกเริ่ม

สาเหตุของมะเร็งปอด เกิดจากอะไร?

สาเหตุของมะเร็งปอด เกิดจากการแบ่งตัวแบบผิดปกติของเซลล์ภายในปอดอย่างไม่สามารถควบคุมได้ เซลล์ที่เสียหายเกิดจากการกลายพันธุ์ (Mutation) พัฒนาเป็นมวลหรือก้อนเนื้อร้ายที่ไปขัดขวางกระบวนการการทำงานของอวัยวะและระบบต่าง ๆ ของร่างกาย โดยทั่วไปแล้วมะเร็งปอดจะเริ่มเกิดขึ้นเป็นจุดเล็ก ๆ ที่ปอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณถุงลมขนาดเล็กภายในปอด แล้วจึงลุกลามแพร่กระจายไปยังอวัยวะส่วนอื่น ๆ โดยรอบ

มะเร็งปอดมีกี่ประเภท?

มะเร็งปอดสามารถจำแนกออกได้เป็น 2 ประเภทตามชนิดขนาดของเซลล์มะเร็ง

  1. มะเร็งปอดชนิดขนาดเซลล์เล็ก (Small cell lung cancer) มะเร็งปอดชนิดขนาดเซลล์เล็ก เป็นมะเร็งปอดชนิดที่สามารถเติบโตได้อย่างรุนแรงและรวดเร็วกว่ามะเร็งปอดชนิดขนาดเซลล์ไม่เล็ก มะเร็งปอดชนิดขนาดเซลล์เล็กมักพบได้ในผู้ป่วยที่มีประวัติการสูบบุหรี่อย่างหนักและต่อเนื่องเป็นระยะเวลายาวนาน หรือเป็นผู้ที่สูดดมควันบุหรี่มือสอง เขม่าควัน ฝุ่นละออง PM2.5
  2. มะเร็งปอดชนิดขนาดเซลล์ไม่เล็ก (Non-small cell lung cancer) มะเร็งปอดชนิดขนาดเซลล์ไม่เล็ก เป็นมะเร็งปอดชนิดที่พบบ่อยที่สุด (กว่า 85-90% ของผู้ป่วยโรคมะเร็ง) โดยทั่วไป มะเร็งปอดชนิดขนาดเซลล์ไม่เล็กเป็นมะเร็งที่เติบโตและแพร่กระจายได้ช้ากว่ามะเร็งปอดชนิดขนาดเซลล์เล็ก สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยกรรมวิธีการรักษาทางการแพทย์ หากได้รับการวินิจฉัยตรวจพบและรักษาอย่างเหมาะสมตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม

มะเร็งปอดมีกี่ระยะ?

ระยะของมะเร็งปอดอาจแตกต่างกันไปตามชนิดของมะเร็ง หลักเกณฑ์ในการประเมินระยะของมะเร็งปอดขึ้นอยู่กับขนาด ตำแหน่ง การแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งและความผิดปกติในการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย ดังนั้น ผู้ป่วยจึงจำเป็นต้องได้รับการวินิจฉัยระยะการลุกลามของเซลล์มะเร็ง เพื่อที่แพทย์จะได้วางแผนการรักษาที่เหมาะสมและตรงจุดให้กับผู้ป่วยได้มากที่สุด

มะเร็งปอดชนิดขนาดเซลล์เล็ก มี 2 ระยะ

  • ระยะจำกัด (Limited stage) พบเซลล์มะเร็งที่ปอดและต่อมน้ำเหลืองข้างเดียวกัน 1 ข้าง
  • ระยะลุกลาม (Extensive stage) เซลล์มะเร็งแพร่กระจายไปทั่วปอดและออกนอกบริเวณช่องทรวงอกข้างนั้น ไปสู่ของเหลวรอบ ๆ ปอด และหรือกระจายไปสู่อวัยวะอื่น ๆ เช่น สมอง

มะเร็งปอดชนิดขนาดเซลล์ไม่เล็ก มี 4 ระยะ

  • ระยะที่ 1 มะเร็งเริ่มมีการก่อตัวที่ปอดส่วนบนหรือบริเวณหลอดลม ในระยะนี้เซลล์มะเร็งจะยังไม่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ของปอดหรือลุกลามออกนอกปอด ในระยะนี้ ผู้ป่วยจะไม่แสดงออกซึ่งอาการใด ๆ ของโรคมะเร็ง
  • ระยะที่ 2 มะเร็งเริ่มแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองภายในปอด มะเร็งอาจจับตัวเป็นก้อนที่กลีบปอด 1 ก้อนหรือมากกว่า ผู้ป่วยมะเร็งปอดในระยะนี้สามารถรักษาให้หายขาดได้ โดยการผ่าตัดเอาเนื้อร้ายออก
  • ระยะที่ 3 มะเร็งขยายตัวและมีขนาดใหญ่กว่าในระยะที่ 2 ในระยะนี้มะเร็งได้ลุกลามไปยังกลีบปอดอื่น มะเร็งอย่างน้อยหนึ่งก้อนก่อตัวขึ้นที่บริเวณกลีบปอดข้างเดียวกัน บริเวณต่อมน้ำเหลือง และเนื้อเยื่อส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย ที่อยู่ระหว่างปอดทั้งสองด้าน
  • ระยะที่ 4 มะเร็งแพร่กระจายไปยังอวัยวะส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย เช่น ปอดอีกข้าง ของเหลวที่ไหลเวียนหล่อเลี้ยงหัวใจ หรือต่อมน้ำเหลืองที่บริเวณคอ ตับ กระดูก ต่อมหมวกไต และสมอง

มะเร็งปอดมีอาการอย่างไร?

มะเร็งปอดในระยะแรกเริ่มจะไม่แสดงออกซึ่งอาการใด ๆ อาการบางอย่าง เช่น ไอ เหน็ดเหนื่อย เมื่อยล้า อาจเกิดขึ้นได้เป็นปกติในชีวิตประจำวัน ผู้ป่วยจำนวนมากจึงชะลอการตรวจคัดกรองเบื้องต้น จนกระทั่งมะเร็งได้พัฒนาเข้าสู่ระยะลุกลาม

สัญญาณและอาการของโรคมะเร็งปอด ได้แก่

  • ไอเรื้อรัง เป็นระยะเวลาต่อเนื่อง ยาวนาน
  • ไอเป็นเลือด
  • หายใจหอบถี่
  • เสียงแหบ
  • หายใจเสียงหวีด
  • ปวดศีรษะ
  • เหน็ดเหนื่อย เมื่อยล้า
  • มีอาการเจ็บที่บริเวณหน้าอก หรือเจ็บบริเวณหน้าอกส่วนบน
  • รู้สึกเบื่ออาหาร
  • น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
  • ปวดบริเวณไหล่
  • ปวดกระดูก
  • มีอาการบวมที่บริเวณใบหน้า ลำคอ และแขน

ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งปอด

ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปอด สามารถจำแนกเป็นปัจจัยที่สามารถควบคุมได้ เช่น การสูบบุหรี่ และปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น พันธุกรรม การตระหนัก ตื่นตัวต่อปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ สามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งปอดได้

การตรวจวินิจฉัยมะเร็งปอด

  • การตรวจสอบมะเร็งปอด: แนะนำให้ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นมะเร็งปอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ยังสูบบุหรี่เป็นประจำหรือ ผู้ใหญ่ที่เคยสูบบุหรี่จัดมาหลายปีทำการสแกน CT ปีละหน แพทย์อาจทำการตรวจเพื่อยืนยันการวินิจฉัยได้หลากหลายวิธี
  • การเอกซเรย์ปอด: การทำ computed tomography (CT) scan หรือ ซีทีแสกน จะทำให้เห็นตำแหน่งของเนื้อเยื้อที่ต้องการตรวจสอบอย่างแม่นยำ กว่าการทำเอกซเรย์ปอดแบบธรรมดา
  • การตรวจเสมหะ: การตรวจเสมหะด้วยกล้องจุลทรรศน์ บางครั้งสามารถพบเซลล์ผิดปกติที่เป็นมะเร็งภายในปอดได้
  • การตัดชื้นเนื้อเพื่อวิเคราะห์ (Biopsy): การเจาะเข็มขนาดเล็กเข้าไปในปอดและเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อที่สงสัยเพื่อส่งตรวจ มักทำคู่กับ ซีทีแสกนเพื่อชี้ตำแหน่งของเนื้อเยื้อที่ผิดปกติ
  • การส่องกล้องตรวจภายในหลอดลม (Bronchoscopy): สอดกล้องขนาดเล็กที่มีไฟส่องสว่างที่ปลายผ่านลำคอลงไปที่ปอด เพื่อตรวจดูบริเวณของปอดที่อาจมีเนื้อเยื้อผิดปกติ
  • การตรวจช่องกลางทรวงอกโดยการส่องกล้อง (Mediastinoscopy): ทำการผ่าตัดบริเวณส่วนบนของกระดูกอกและนำตัวอย่างเนื้อเยื่อหรือต่อมน้ำเหลืองออกมาตรวจ อาจมีการเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อจากบริเวณอื่น ที่มีการแพร่กระจายของมะเร็ง เช่น ตับ การวินิจฉัยชนิดของมะเร็งปอดนั้นมีความสำคัญต่อการรักษาเพราะจะช่วยให้แพทย์วางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม

วิธีการรักษามะเร็งปอด

การรักษามะเร็งปอด จะได้ผลดีมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น สุขภาพโดยทั่วไปของผู้ป่วย ประเภทและระยะของโรค และความต้องการส่วนบุคคล

  • การผ่าตัด (Surgery): เพื่อขจัดเนื้องอกมะเร็งภายในปอดออก นอกจากนี้อาจมีการนำต่อมน้ำเหลืองที่หน้าอกออกมาทำการวินิจฉัยเพึ่มเติม การผ่าตัดเป็นทางเลือกหลักสำหรับผู้ป่วยมะเร็งปอดที่ยังไม่มีการแพร่กระจายเพราะสามารถหายขาดได้ ในบางกรณี อาจใช้การฉายแสงหรือใช้เคมีบำบัดเพื่อลดขนาดก้อนมะเร็งก่อนการผ่าตัด
  • การบำบัดด้วยรังสี (radiotherapy): ใช้รังสีที่มีพลังงานสูงเพื่อลดขนาดเนื้องอกโดยการฆ่าทำลายเซลล์มะเร็ง วิธีนี้มักใช้ร่วมกับเคมีบำบัดในช่วงก่อนและหรือหลังการผ่าตัด การรักษาด้วยรังสีอาจเป็นทางเลือกหลักในการรักษาสำหรับผู้ป่วยมะเร็งปอดระยะลุกลาม
  • การให้ยาเคมีบำบัด (chemotherapy): ใช้ยาเพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งผ่านการกินหรือฉีดเข้าเส้นเลือดนอกจากนี้เคมีบำบัดยังสามารถใช้บรรเทาอาการปวดที่เกิดจากมะเร็ง
  • การรักษามะเร็งด้วยยาแบบมุ่งเป้า (targeted therapy): การรักษาด้วยยาแบบกำหนดเป้าหมายจะเน้นการทำให้เซลล์มะเร็งตายโดยการหยุดยั้งการเจริญเติบโตผิดปกติภายในเซลล์โดยไม่ส่งผลต่อเซลล์ปกติ โดยส่วนใหญ่จะตรวจชนิดการกลายพันธุ์ของยีนก่อน
  • การรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy): อาศัยหลักการใช้ภูมิคุ้มกันเพื่อจัดการกับเซลล์มะเร็งในร่างกายผ่านการได้รับยาเพื่อรบกวนกระบวนการผลิตโปรตีนที่เซลล์มะเร็งใช้ในการป้องกันไม่ให้ระบบภูมิคุ้มกันโจมตีเซลล์มะเร็ง
  • การรักษาแบบผสมผสานและการจัดการกับความเจ็บปวด (Palliative care and pain management): เป็นรูปแบบการดูแลประคับประคองให้ผู้ป่วย มีสุขภาพจิตที่แข็งแรงหลังได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งและรับเข้าการรักษา มีวิจัยเสนอว่าโดยทั่วไปแล้วผู้ป่วยมะเร็งสามารถมีอายุยืนกว่าถึง 3 เดือนหากได้รับกำลังใจที่ดีจากคนรอบข้าง

ป้องกันมะเร็งปอดได้อย่างไร?

เราสามารถลดโอกาสการเกิดโรคมะเร็งปอดลงได้ ถ้าเราใช้มาตรการเหล่านี้ในการลดหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง

  • ไม่สูบบุหรี่หรือหยุดสูบบุหรี่ ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งปอดสําหรับตัวเองและบุคคลรอบข้าง ทันทีที่หยุดสูบ เนื้อเยื่อปอดที่เสียหายจะเริ่มซ่อมแซมตัวเองและช่วยเพิ่มโอกาสในการมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น การเลิกบุหรี่อาจไม่ใช่เรื่องง่าย แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาหรือใช้เครื่องมือช่วยเพื่อให้เลิกบุหรี่ เช่น ผลิตภัณฑ์ทดแทนนิโคติน ยาช่วยให้เลิก หรือรับคำแนะนำอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์
  • หลีกเลี่ยงควันบุหรี่มือสอง ควันบุหรี่มือสองคือตัวการสำคัญที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งปอดแม้กระทั่งกับผู้ที่ไม่เคยสูบบุหรี่มาก่อน หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ให้สวมหน้ากากอนามัยเพื่อกรองสารพิษ การอยู่ให้ห่างจากพื้นที่สูบบุหรี่ซึ่งมีควันบุหรี่หนาแน่นสามารถลดความเสี่ยงจากการรับสารก่อมะเร็งได้
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ อาหารเพื่อสุขภาพ โดยเฉพาะผักและผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญ วิตามิน และแร่ธาตุต่าง ๆ ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายในการต่อสู้กับอนุมูลอิสระซึ่งเป็นสาเหตุหลักอย่างหนึ่งของโรคมะเร็ง
  • การออกกำลังกายคือยาที่ดีที่สุด การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอสามารถลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและกลไกการทำงานของร่างกายโดยรวม ช่วยปรับปรุงการทำงานของสมอง ช่วยบำบัดอาการเจ็บป่วยเรื้อรังและทุพพลภาพ ทั้งยังช่วยพัฒนาขีดความสามารถในการทำกิจกรรมและป้องกันการหกล้ม และยังช่วยเสริมสร้างมวลกระดูกและกล้ามเนื้อให้แข็งแรง และเพิ่มโอกาสในการมีชีวิตที่ยืนยาว

โปรโมชั่น !!

สินค้าจำนวนจำกัด
Aimmura-X 3 ฟรี 1

Hours
Minutes
Seconds

เกี่ยวกับเรา
(sesaminseed.com)

ศูนย์เซซามินกรุงเทพมหานคร ศูนย์จำหน่ายสินค้าเซซามิน เอมมูร่าของแท้ ดูแลผู้ป่วยมากว่า 12 ปี

แผนที่ พาซิโอ กาญจนาภิเษก (นัดรับสินค้า)

เพจ Facebook (อัปเดตข่าวสาร, โปรโมชั่น)

error: Content is protected !!